มารู้จัก "วันกองทัพไทย" กันเถอะ!
https://www.facebook.com/1973292132934418/posts/2182998435297119/
ประวัติวันกองทัพไทย
เมื่อ พ.ศ.2502 รัฐบาลในสมัยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้กำหนดให้วันที่ 8 เมษายน เป็นวันกองทัพไทย และยังเป็นวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม เป็นวันที่มีการปรับปรุงการทหาร จากการจัดอัตรา กำลังแบบโบราณมาเป็นการจัดอัตรากำลังแบบปัจจุบัน ครั้นเมื่อสมัยพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใน พ.ศ.2523 เห็นว่าวันกองทัพไทยควรเป็นวันที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงความกล้าหาญและเสียสละเป็นวันที่มีความสำคัญและมีความหมายยิ่งสำหรับทหารทั้งสามเหล่าทัพ จึงได้กำหนดเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีได้รับชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชาเป็นวันของกองทัพไทยซึ่งตรงกับวันที่ 25 มกราคมของทุกปี
วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2539 พลตำรวจตรีสุชาติ เผือกสกนธ์ อดีตอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ได้มีหนังสือพร้อมข้อมูลของวันกองทัพไทยเสนอไปที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ให้ทำการเปลี่ยนแปลงวันกองทัพไทย ด้วยเหตุที่ว่าได้ทำการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และได้พบความคลาดเคลื่อนของวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีจึง ขอให้พิจารณาแก้ไขวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทยที่คลาดเคลื่อนให้ถูกต้อง เพื่อซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยคือวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาซึ่งแต่เดิมกำหนดไว้ คือ วันที่ 25 มกราคม ที่ถูกต้องคือวันที่ 18 มกราคม
วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2549 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทยจากวันที่ 25 มกราคม เป็นวันที่ 18 มกราคม ของทุกปี โดยเริ่มใช้ครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เป็นต้นไป และอนุมัติให้เป็นวันหยุดราชการของกระทรวงกลาโหม ซึ่งกิจกรรมที่กระทำในวันกองทัพไทยคือพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพลซึ่งถือเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับทหารทุกๆคนในกองทัพแห่งชาติทุกเหล่า
กิจกรรมที่ทำในวันกองทัพไทย
ทุกวันที่ 18 มกราคม ของทุกปี เป็นวันกองทัพไทยหรือเรียกกันอีกอย่างว่าวันยุทธหัตถีหรือวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นวันหยุดราชการของกระทรวงกลาโหม ซึ่งกิจกรรมที่กระทำในวันกองทัพไทยคือพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพลซึ่งถือเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับทหารทุกๆคนในกองทัพแห่งชาติทุกเหล่า
สวนสนามสาบานธง
พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับทหารทุกคน เป็นกิจกรรมที่จะกระทำในวันกองทัพไทยคือ พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล หรือที่นิยมเรียกว่า "สวนสนามสาบานธง" ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปีในวันกองทัพไทย และวันสำคัญของแต่ละเหล่าทัพ เพื่อให้ทหารใหม่ได้ทำพิธีสาบานธงและเดินสวนสนามเพื่อแสดงความเป็นทหารอย่างสมบูรณ์
วางพวงมาลา
พิธีวางพวงมาลาเพื่อเป็นการระลึกถึงวีรกรรมและเป็นการสักการะดวงวิญญาณนักรบไทย ซึ่งจะมีพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์ทางทหาร เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อนุสาวรีย์ทหารอาสา อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ฯลฯ
ทำบุญตักบาตร
ในวัน กองทัพไทย แม้จะไม่ตรงกับวันพระ อาจเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทางกองทัพไทยได้ร่วมกันทำพิธีสงฆ์ ทำบุญ ตักบาตร เพื่ออุทิศเป็นพระราชกุศล และเพื่อเป็นการรำลึกถึงวีรกรรม บรรพบุรุษเหล่านักรบไทยและทหารผู้กล้า รวมถึงกษัตริย์นักรบอย่างพระนเรศวรมหาราช ที่ช่วยกอบกู้เอกราชและรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้ ซึ่งอาจจะจัดให้มีพิธีสงฆ์หรือการทำบุญ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมนี้
ใต้ผืนดินไทยทุกตารางนิ้ว ที่ประชาชนชาวไทยได้อยู่อาศัย ได้ทำมาหากิน และอยู่สุขสบายมาจนถึงทุกวันนี้ ล้วนเป็นเรื่องที่ควรระลึกถึงบรรพบุรุษนักรบผู้กล้ายิ่ง เพราะผืนแผ่นดินที่เคยนองด้วยเลือดของบรรพบุรุษไทยจำนวนมาก ที่ต่อสู้กับอริราชศัตรู เพื่อทำการปกปักรักษามรดกนี้ มาจนถึงปัจจุบัน
บทบาทของกองทัพไทย
เพราะในวันที่ 18 มกราคม ถือเป็นวันกองทัพไทย ซึ่งเป็นเหล่าทหารที่มีหน้าที่ที่สำคัญต่อประเทศมากมาย ล้วนแต่เป็นหน้าที่ที่สำคัญต่อประเทศชาติ
การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่สูงสุดและสำคัญสำหรับประชาชน เพราะพระมหากษัตริย์ทรงเป็นมิ่งขวัญแก่เหล่าทหารเทิดทูนไว้เหนือเกล้าฯ เป็นสถาบันที่สำคัญยิ่งแก่เหล่าทหาร กองทัพไทยจึงมีส่วนสำคัญในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยในโอกาสวันเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาของทุกปี กองบัญชาการทหารสูดสุดได้จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน ณ สวนสนามทหารรักษาพระองค์
การรักษาความมั่นคงภายในประเทศและการป้องกันประเทศ
กองทัพไทยให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงความร่วมมือจากประชาชนในการให้ข่าวสารกับทางราชการ และปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน และจัดทำแผนการป้องกันประเทศไว้สำหรับรับสถานการณ์จากภัยคุกคามทุกด้าน โดยจัดให้มีการฝึกกองทัพไทยทุกปี รวมถึงมีการจัดเตรียมกำลังรบพร้อมปฏิบัติการตามแผนตั้งแต่ยามปกติและยามคับขัน
การรักษาผลประโยชน์ของชาติ
กองทัพไทยมีบทบาทสำคัญในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทั้งทางบกและทางทะเล เพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า รักษาเส้นทางคมนาคมทางทะเล ช่วยแหลือผู้ประสบภัย และบรรเทาสาธารณภัย และยังมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่ประชาชน รวมถึงการรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไว้ สอดส่องดูแล รักษา ปกป้อง ทรัพยากรทางธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลาย
ดังนั้น ในฐานะที่เราเป็นคนไทย เกิดบนแผ่นดินไทย เราทุกคนจึงควรตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มั่นทำความดีและดูแลบ้านเมืองให้สงบสุข และที่สำคัญที่สุดคือควรสามัคคี เพื่อที่เราจะได้อยู่กันอย่างสงบ และเพื่อตอบแทนพระคุณของพระองค์ท่าน ที่ได้ทรงเสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องรักษาแผ่นดินไทยของเราให้ได้อยู่มาจน ถึงทุกวันนี้
เรียบเรียงโดย จส.กจสท.สส.
ขอบคุณข้อมูลจาก www.scoop.mthai.com
www.myhora.com
ขอบคุณรูปภาพประกอบ www. google.com
ตามไปอ่านกันได้ทางนี้ https://www.facebook.com/1973292132934418/posts/2182998435297119/