พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ รวมถึงโครงการในพระราชดำริในสมเด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


 

  เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ๒ เมษายน นี้ เว็บไซต์ JS signal radio ขอนำพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ รวมถึงโครงการในพระราชดำริในสมเด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ย่อๆ มานำเสนอ…..

 

 ศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ ดร. พลเอกหญิง พลเรือเอกหญิง พลอากาศเอกหญิง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เป็นพระราชธิดาพระองค์ที่ ๒ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันเสาร์ที่ ๒ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๘ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต โดยสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (พระราชอุปัชฌาย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) เป็นผู้ถวายพระนามว่า "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์" และทรงมีพระนามเล่นว่า “ทูลกระหม่อมน้อย



  

เมื่อทรงพระเยาว์

  ทรงเริ่มเข้ารับการศึกษาระดับชั้นอนุบาลที่โรงเรียนจิตรลดา ทรงมีพระสติปัญญาไว สนพระทัยการอ่านอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ทรงมีพระอัธยาศัยงดงาม มีพระอารมณ์ขัน โปรดสนุกสนาน ไม่ถือพระองค์ เป็นที่รักใคร่ชื่นชมของพระอาจารย์และพระสหายทั่วกัน ในขณะที่ทรงศึกษา ณ โรงเรียนจิตรลดานอกจากจะทรงพระปรีชาสามารถด้านการเล่าเรียนแล้ว ยังทรงโปรดกิจกรรมด้านกีฬา การบันเทิง และการบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม ทรงดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการนักเรียน อาทิ ประธานชมรมห้องสมุดปฏิคม และประธานนักเรียนหญิงในปีสุดท้ายที่ศึกษาที่โรงเรียนจิตรดา

 

เมื่อเจริญพระชนมพรรษา

              สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ทรงมีผลการเรียนดีเด่นมาโดยตลอด ขณะทรงศึกษาอยู่ในชั้นประถมปีที่ ๗ ทรงสอบวัดผลระดับประโยคประถมศึกษาตอนปลายของประเทศได้คะแนนเป็นลำดับที่ ๑ ต่อมาก็ทรงสอบไล่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ แผนกศิลปะ ได้เป็นที่หนึ่งของประเทศอีกครั้ง พระจริยาวัตรที่เด่นชัดประการหนึ่งของพระองค์คือ ทรงรักการอ่านเป็นอย่างยิ่ง ทรงอ่านหนังสือทุกประเภท ทั้งยังทรงอ่านได้ทุกเวลาทุกสถานที่ การที่ทรงเป็นหนอนหนังสือนี้ทำให้ทรงรอบรู้กว้างขวาง ไม่จำกัดเฉพาะในบทเรียน อันเป็นประโยชน์มหาศาลเมื่อทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจหลายหลากนานัปการเพื่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทยในกาลต่อมา นอกจากทรงโปรดการอ่านแล้วยังทรงโปรดการเขียนไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ดังจะเห็นได้จากบทพระราชนิพนธ์จำนวนมากมาย นับแต่ทรงพระเยาว์จวบจนปัจจุบัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีทรงสอบเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อปีการศึกษา ๒๕๑๖ โดยทรงเลือกศึกษาวิชาประวัติศาสตร์เป็นวิชาเอก วิชาภาษาไทยและวิชาภาษาบาลี และสันสกฤตเป็นวิชาโท ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชประสงค์ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอฯทรงศึกษาใน มหาวิทยาลัยเยี่ยงนิสิตทั่วไป จึงเป็นภาพอันเจนตาแก่บรรดานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขณะนั้น ที่จะเห็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดาฯทรงถือหนังสือเต็มพระหัตถ์ และทรงหิ้วกระเป๋าย่ามคู่พระทัยเป็นรูปช้างบรรจุตำราเรียนจำนวนมากมายังมหาวิทยาลัย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ทรงสำเร็จการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๒๐ โดยทรงสอบได้คะแนนเฉลี่ย ๓.๙๘ เป็นที่หนึ่งของอักษรศาสตรบัณฑิตรุ่น ๔๑ ทรงได้รับพระราชทานปริญญาอักษรศาสตรบัญฑิตเกียรตินิยมอันดับ ๑ และเหรียญทองรางวัลคะแนนเยี่ยมตลอดหลักสูตรสาขาวิชาประวัติศาสตร์นับเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าไทยพระองค์แรกที่ทรงจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในประเทศ หลังจากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทพร้อมกันสองสถาบัน คือ ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งทรงสำเร็จการศึกษาในปีพุทธศักราช ๒๕๒๓ โดยทรงเลือกทำวิทยานิพนธ์เรื่อง ทศบารมีในพุทธศาสนาเถรวาทและที่คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร สำเร็จการศึกษาในปีพุทธศักราช ๒๕๒๒ โดยทรงเลือกทำวิทยานิพนธ์เรื่อง จารึกพบที่ปราสาทพนมรุ้งกระนั้นก็ยังมิได้ทรงหยุดยั้งการศึกษาหาความรู้ ทรงเข้าศึกษาในระดับปริญญาเอกสาขาวิชาพัฒนศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ทรงได้รับพระราชทานปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิตในปีพุทธศักราช ๒๕๒๙

 

       

       

 

 

     พระราชกรณียกิจ

  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงใฝ่พระทัยในการทรงงานต่างๆสนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถมาโดยตลอดนับแต่เมื่อทรงเจริญพระชนมายุเป็นต้นมา ทรงแบ่งเบาพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทั้งด้านการเกษตร การชลประทาน การบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาราษฎรทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจหลายประการอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม อาทิ ทรงก่อตั้งมูลนิธิสายใจไทยเพื่อช่วยเหลือทหาร ตำรวจ และพลเรือนที่บาดเจ็บพิการจากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ทรงริเริ่มโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันแก่นักเรียนในชนบทห่างไกล รวมทั้งทรงส่งเสริมการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาสในชนบทด้วยพระวิริยะอุตสาหะในการทรงปฏิบัติกิจการอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและอาณาประชาราษฎร์เป็นเอนกประการ กอปรกับพระราชจริยาวัตรอันงดงามเป็นที่ประจักษ์และชื่นชมแก่เหล่าพสกนิกรในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๒๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯสถาปนาพระอิสริยศักดิ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดาฯขึ้นเป็น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรี สิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีพระราชภารกิจสำคัญหลายประการ อาทิ ทรงเป็นราชเลขานุการส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ผู้อำนวยการกองวิชาประวัติศาสตร์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ทรงเป็นองค์อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิสายใจไทย และทรงเป็นประธานมูลนิธิ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาซึ่งอุปการะการศึกษาของนักเรียนและนักศึกษาขาดแคลนทุนทรัพย์ ยังไม่รวมถึงโครงการพระราชดำริที่ทรงริเริ่มเพื่อประโยชน์สุขแห่งประชาชนชาวไทยอีกจำนวนมากมาย

     โครงการในพระราชดำริ

ด้านเศรษฐกิจ

โครงการฝึกอาชีพในโรงเรียน

เป็นโครงการที่ทรงพระกรุณาฯให้ดำเนินการฝึกอาชีพให้แก่นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่ไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ โดยเน้นให้เป็นการฝึกหัดอาชีพที่เหมาะสมกับท้องถิ่นนั้นๆ เพื่อให้มีวิชาชีพติดตัวสามารถนำไปประกอบอาชีพได้

โครงการส่งเสริมสหกรณ์ในโรงเรียน

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการส่งเสริมการสหกรณ์ โดยให้มีการปลูกฝังความรู้แก่เด็กนักเรียนและส่งเสริมให้มีการตั้งสหกรณ์ขึ้นในชุมชนที่มีความพร้อม เป็นที่มาของโครงการส่งเสริมสหกรณ์ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนับแต่ปี ๒๕๓๔ เป็นต้นมา

ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

โครงการฝึกอาชีพในโรงเรียน

เป็นโครงการที่ทรงพระกรุณาฯให้ดำเนินการฝึกอาชีพให้แก่นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่ไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ โดยเน้นให้เป็นการฝึกหัดอาชีพที่เหมาะสมกับท้องถิ่นนั้นๆ เพื่อให้มีวิชาชีพติดตัวสามารถนำไปประกอบอาชีพได้

โครงการส่งเสริมสหกรณ์ในโรงเรียน

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับการส่งเสริมการสหกรณ์ โดยให้มีการปลูกฝังความรู้แก่เด็กนักเรียนและส่งเสริมให้มีการตั้งสหกรณ์ขึ้นในชุมชนที่มีความพร้อม เป็นที่มาของโครงการส่งเสริมสหกรณ์ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนนับแต่ปี ๒๕๓๔ เป็นต้นมา

ด้านสุขภาพอนามัย

โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน

เป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมให้ครู ผู้ปกครองและนักเรียนร่วมกันทำการเกษตรในโรงเรียนแล้วนำผลผลิตที่ได้มาประกอบเป็นอาหารกลางวัน โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯพระราชทานเงิน สิ่งของ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ วัสดุอุปกรณ์สำหรับการเกษตรและการครัวให้แก่โรงเรียนในโครงการ โครงการนี้จะช่วยให้เด็กนักเรียนมีอาหารกลางวันที่มีคุณค่าทางโภชนาการรับประทานตลอดช่วงการศึกษาแล้ว ยังทำให้นักเรียนมีความรู้ด้านการเกษตรแผนใหม่ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือประกอบอาชีพได้ต่อไปด้วย

โครงการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงตระหนักถึงปัญหาการระบาดของโรคคอพอกเนื่องจากขาดสารไอโอดีนในพื้นที่ทุรกันดาร ได้ทรงมีพระราชดำริจัดตั้งโครงการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนขึ้นเพื่อเสริมการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีเป้าหมายที่จะลดอัตราคอพอกในเด็กนักเรียนให้เหลือต่ำกว่าร้อยละ ๕ ซึ่งจะเป็นการช่วยแก้ปัญหาสาธารณสุขของประเทศโดยส่วนรวมได้

โครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดาร

จากการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันขึ้นในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งอยู่ในถิ่นทุรกันดารตามแนวชายแดนทั่วประเทศ เพื่อเป็นการช่วยแก้ปัญหาการขาดสารโปรตีนและพลังงานในเด็กวัยเรียนทางหนึ่งนั้น ผลการดำเนินงานโครงการดังกล่าว สามารถช่วยลดอัตราการมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ของเด็กนักเรียนได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามปัญหาการขาดสารอาหารในเด็กวัยเรียนในพื้นที่ทุรกันดารก็ยังคงมีอยู่

โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันในพระราชดำริได้ช่วยลดปัญหาขาดสารโปรตีนและพลังงานรวมทั้งการมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ในเด็กนักเรียนได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถขจัดปัญหาดังกล่าวให้สิ้นไปได้เนื่องจากรากฐานโภชนาการและสุขอนามัยของประชากรในพื้นที่ทุรกันดารยังไม่ดีพอ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯได้มีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดารเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพของเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ทำให้ทารกที่เกิดมามีสุขภาพแข็งแรง พร้อมที่จะพัฒนาต่อไปได้เต็มศักยภาพ

ด้านทรัพยากรธรรมชาติ

โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ในคราวที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบำรุงที่ ๑๐๗ บ้านห้วยจะค่าน ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่เมื่อปี ๒๕๓๐ มีพระราชดำริให้ปลูกฝังการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติแก่เด็กนักเรียน ทั้งยังมีพระราชดำริให้โรงเรียนปลูกต้นสะเดา ซึ่งนอกจากจะให้ร่มเงาและนำส่วนต่างๆมาประกอบอาหารแล้ว ยังสามารถนำเมล็ดมาใช้ป้องกันและกำจัดแมลงในผักได้โดยไม่มีสารพิษตกค้างหรือมีผลทำลายสภาพแวดล้อมเช่นสารเคมีทั่วไปด้วย พระราชดำริในครั้งนั้นได้ขยายผลออกเป็นโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอื่นๆอาทิ การส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝก ที่ยึดเป็นแนวทางปฏิบัติในบรรดาโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสืบมา

ด้านการศึกษา

โครงการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา

เป็นโครงการที่มุ่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนซึ่งมักตั้งอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ด้วยการพัฒนาศักยภาพของครูซึ่งเป็นตำรวจตระเวนชายแดนให้ทำหน้าที่ครูได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาการเรียนการสอนภาคบังคับให้ได้มาตรฐาน ให้นักเรียนมีความพร้อมที่จะศึกษาต่อในระดับสูงขึ้นต่อไป

โครงการนักเรียนในพระราชานุเคราะห์

เป็นโครงการที่สนับสนุนให้นักเรียนยากจนในท้องถิ่นทุรกันดารได้มีโอกาสศึกษาต่อตามความสามารถ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงพระกรุณาพระราชทานพระราชานุเคราะห์ให้นักเรียนเหล่านั้นได้มีโอกาสเล่าเรียน เพื่อกลับไปพัฒนาท้องถิ่นของตนให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

**ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก http://www.sac.or.th/exhibition/princess/

 

2 เมษายน วันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพฯ สยามบรมราชกุมารี ขอให้ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง ทรงพระเจริญยิ่งยื่นนาน

 

…..ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า สถานีวิทยุ JS signal radio